พัฒนาการของMouse

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



การพัฒนาเทคโนโลยีของเมาส์  MOUSE
"เมาส์" เป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ และควบคุมการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้งานง่ายและสะดวก เนื่องจากไม่ต้องจดจำคำสั่งสำหรับป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ในการเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้บนหน้าจอ ทำโดยการเลื่อนเมาส์ไปมาบนทุกๆ พื้นผิวเรียบ ซึ่งในการเลื่อนเมาส์แต่ละครั้งนั้นจะสัมพันธ์กับตำแหน่งของตัวชี้บนหน้าจอ และรับคำสั่ง เมื่อมีการกดปุ่มของเมาส์


พัฒนาการเทคโนโลยีของเมาส์  มีดังต่อไปนี้ 
1. Mechanical Mouse
          
                   กลไกภายในของเมาส์ลูกกลิ้งประกอบด้วย ลูกบอลยางที่มีน้ำหนักและแรงเสียดทานพอดี เมื่อทำการเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางใดจะทำให้ลูกบอลเคลื่อนไปในทิศทางนั้น ซึ่งตัวลูกบอลจะกดแนบอยู่กับลูกกลิ้ง โดยแกนของลูกกลิ้ง จะต่อกับจานแปลรหัส (Encoder) ซึ่งบนจานจะมีหน้าสัมผัสเป็นจุดๆขึ้นอยู่กับความละเอียดของเมาส์ เมื่อจุดสัมผัสเลื่อนมาตรงแกนสัมผัส ก็จะสร้างสัญญาณบอกไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยลูกกลิ้งจะทำให้กลไกซึ่งทำหน้าที่ปรับแกนหมุนในแนวแกน x และแกน y แล้วส่งผลไปเลื่อนตำแหน่งตัวชี้บนจอภาพ
                เมาส์ลูกกลิ้งถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่ง่าย มีรูปร่างที่พอเหมาะกับมือ และใช้งานได้สะดวก เนื่องจากสามารถนำเมาส์ลูกกลิ้งไปใช้ได้ทุกที่ แต่ควรใช้กับแผ่นรองเมาส์ที่เป็นพื้นผิวเรียบ ส่วนลูกกลิ้งนั้นต้องออกแบบมาให้กลิ้งได้ง่าย ไม่ลื่นไถลมาก สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างต่อเนื่องสัมพันธ์ระหว่างทางเดินของเมาส์และจอภาพ

2. Optical-Mechanical Mouse

                                         
           

               เมาส์ประเภทนี้มีกลไกการทำงานคล้ายกับเมาส์ลูกกลิ้ง เพียงแต่ตัวตรวจรับการเคลื่อนที่ของจาน Encoder นั้นใช้เป็น LED โดยบนจานถูกเจาะรูรอบๆ ในด้านหนึ่งของจานไว้คอยกำเนิดแสง และอีกด้านหนึ่งจะมีทรานซิสเตอร์ไวแสงไว้คอยตรวจจับแสงแทนการใช้การสัมผัส

3. Optical Mouse

                                              
    

               เมาส์แบบใช้แสง เป็นเมาส์ที่พัฒนามาจากเมาส์ลูกกลิ้ง ซึ่งเมาส์ลูกกลิ้งมีจุดด้อยอยู่ตรงที่มีขีดจำกัดในการทำงานที่ต้องใช้งานบนพื้นผิวที่เรียบ และความรวดเร็วในการใช้งานที่ช้า อีกทั้งยังมีความละเอียดต่ำ ทำให้มีการพัฒนาขึ้นมาเป็นเมาส์แบบใช้แสง
                การการทำงานของเมาส์ประเภทนี้ อาศัยหลักการส่งแสงจากเมาส์ลงไปบนแผ่นรองเมาส์ชนิดพิเศษ ซึ่งมีผิวมันสะท้อนแสง และเป็นตารางตามแนวแกน และ Y โดยแกนหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน อีกแกนเป็นสีดำ ตัดกันไว้คอยตรวจจับการเคลื่อนที่ ซึ่งบนเมาส์ จะมี LED 2 ตัวให้กำเนิดแสงออกมา 2 สี คือ สีดำและสีน้ำเงิน LED ที่กำเนิดแสงสีดำจะดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน LED ที่กำเนิดแสงสีน้ำเงิน จะดูดกลืนแสงสีดำ ซึ่งตัวตรวจจับแสงเป็นทรานซิสเตอร์ไวแสง สีที่ตรวจจับได้จะบอกทิศทาง ส่วนช่วงของแสงที่หายไปจะบอกถึงระยะทางการเคลื่อนที่
              ข้อดีของเมาส์ประเภทนี้ คือ ทำให้ตัดปัญหาการเคลื่อนที่ที่ไม่คล่องตัวของเมาส์ อันเนื่องจากมีฝุ่นผงเกาะติดลูกบอลยางมากต้องถอดออกมาทำความสะอาดลูกบอลยางบ่อยๆ ดังนั้นเมาส์ประเภทนี้จึงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก มีความถูกต้องของตำแหน่งที่ต้องการให้เคลื่อนที่ไปสูง และสามารถจะเคลื่อนเมาส์บนวัสดุอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรอง

4. Wireless mouse

                                           
        
              
เมาส์ไร้สายเป็นเมาส์ที่ทำงานด้วยกลไกแบบลูกกลิ้งหรือแบบแสงก็ได้ เพียงแต่ไม่มีสายต่อเท่านั้น เพราะจะใช้การส่งสัญญาณผ่านตัวรับไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แทนที่จะผ่านทางสายโดยตรง ซึ่งการพัฒนาเมาส์ไร้สายในช่วงแรกจะอาศัยเทคโนโลยีอินฟราเรด แต่ต่อมามีการพัฒนาไปใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ทั้งนี้เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องการส่งรับสัญญาณ เครื่องส่งและเครื่องรับจะต้องอยู่ในแนวทิศทางเดียวกันและห้ามมีอุปกรณ์ใดๆ ขวางแนวการรับ-ส่งของคลื่น โดยเด็ดขาด แต่สำหรับเมาส์ที่ใช้เทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทำให้การใช้งานเมาส์มีความสะดวกมากขึ้นและใช้งานได้ในรัศมีความสะดวกมากขึ้น และใช้งานได้ในรัศมีที่กว้างขึ้น เนื่องจากคลื่นวิทยุสามารถทะลุผ่านอุปกรณ์กีดขวางใดๆ ได้ แต่จะต้องมีการติดตั้งเครื่องรับสัญญาณเพิ่มเติมที่เครื่องคอมพิวเตอร์ 
                ข้อดีของเมาส์ประเภทนี้ คือ สามารถเลื่อนเมาส์ได้ในระยะที่อยู่ห่างจากคอมพิวเตอร์มากขึ้น เนื่องจากไม่มีสายเป็นตัวกำหนดขอบเขตการทำงานอีกต่อไป 

5. Laser  Mouse

                                                  
    

                เมาส์เลเซอร์ เกิดจากการคิดค้นและพัฒนาของ Logitech ซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าแรก ที่ผลิตเมาส์เลเซอร์ออกมา 

จุดน่าสนใจของเมาส์เลเซอร์อย่างแรกคือ ความแม่นยำ และการตอบสนองความต้องการของเมาส์ขณะทำงานที่ทำได้เร็วกว่าเมาส์แบบใช้แสง เพราะเมาส์แบบใช้แสง ใช้หลอด LED เป็นตัวปล่อยแสง ซึ่งแสงที่ได้จากหลอด LED นั้นเป็นเพียงหลอดไฟหลอดหนึ่งเท่านั้นการเดินทางของแสง ความแม่นยำ ความรวดเร็วในการทำงานย่อมด้อยกว่าเมาส์เลเซอร์ ที่ใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวรับ-ส่งข้อมูลแทนแสงจากหลอด LED ข้อดีอีกข้อหนึ่งของเมาส์เลเซอร์ คือ การใช้งานบนพื้นผิวที่มีความมัน หรือไม่เรียบ พื้นไม้ ปกหนังสือ หน้าปกนิตยสาร ได้ค่อนข้างดี สะดวกกว่าเมาส์ออปติคพอสมควร แต่ข้อเสียของเมาส์ตระกูลที่ใช้แสงไม่ว่าจะเป็นเมาส์เลเซอร์ หรือเมาส์ออปติค คือ ไม่สามารถใช้งานบนพื้นผิวที่สามารถสะท้อนแสงได้

6. Blue Track Mouse

                                                         
 

                เมาส์บลูแทร็ค เมาส์รุ่นใหม่ล่าสุดพัฒนาโดย Microsoft ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเทคโนโลยีการผลิตเมาส์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งคุณสมบัติของเทคโนโลยีนี้ใช้ลำแสงสีน้ำเงินแทนการใช้แสงสีแดงที่ใช้ในเมาส์เลเซอร์ทั่วๆ ไป สามารถทำให้เมาส์ใช้งานได้บนทุกๆ พื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นบนพรม ไม้ หรือพื้นผิวขรุขระก็ตาม และในเมาส์ปกตินั้นจะมีการส่ง
ลำแสงเลเซอร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวางบนพื้นผิวที่สกปรกหรือมีฝุ่น ก็จะขัดขวางการส่งสัญญาณข้อมูล ทำให้การทำงานผิดพลาดได้ง่าย แต่การส่งลำแสงเลเซอร์ของเมาส์บลูแทร็คนี้ เป็นแบบไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น มันจึงไม่อ่อนไหวต่อ
พื้นผิวที่มีฝุ่น และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น